เทศกาลไหว้พระจันทร์

หน้าปก เทศกาลไหว้พระจันทร์


เรามิได้ให้ค่าดวงจันทร์เพียงแค่ดาวดวงหนึ่งที่อยู่ในระบบสุริยะจักรวาล ที่มีพื้นผิวขรุขระไร้ชีวิต หากแต่ดวงจันทร์สำหรับเด็กๆนั้นลึกซึ้งและมีชีวิตชีวากว่ามาก สิ่งเหล่านี้ส่งผ่านมาทางบทเพลง นิทานเรื่องเล่า บทกลอน ขนมเทศกาล หรือกระทั้งการตระเตรียมบรรยากาศ ทั้งหลายทั้งมวลแทรกซึมอยู่ภายในตัวเด็กๆ

      เรามักจะพูดคุยกันในทุกๆปีว่า เทศกาลต่างๆที่ทางดุลยพัฒน์จัดขึ้นนั้นมิได้จัดขึ้นเพื่อตามกระแสนิยมใดๆ เทศกาลไหว้พระจันทร์ก็เช่นเดียวกัน แก่นของเทศกาลไหว้พระจันทร์นั้นก็เพื่อให้เราขอบคุณและตระหนัก โดยที่ไม่ต้องอธิบายให้เด็กๆฟังว่าดวงจันทร์นั้นมีผลต่อสรรพสิ่งบนโลกมนุษย์ ทั้งทางกายภาพและโลก ทางดวงจิต ปรากฏการณ์น้ำขึ้น –น้ำลง ที่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของสิ่งมีชีวิต ต้นข้าวเติบโต เด็กๆเติบโต หรืออีกประการหนึ่งที่อิทธิพลของดวงจันทร์ส่งผลต่อภาวะอารมณ์ ความรู้สึกของมนุษย์ที่แตกต่างกันไปเทศกาลไหว้พระจันทร์ 

     เด็กๆตื่นเต้นและรอคอยเทศกาลนี้เช่นเคย เทศกาลนี้ เด็กๆอนุบาลและnurseryจะเริ่มเตรียมทำโคม ร้องเพลงไหว้พระจันทร์ ฟังนิทานเรื่องฉางเอ๋อเทพธิดาบนดวงจันทร์ ทำขนมโก๋ถั่ว ซึ่งเราทำกันเฉพาะเทศกาลนี้ (เช่นเดียวกับพี่ๆฝั่งประถมซึ่งก็มีการเตรียมการฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์คล้ายๆกับน้องๆค่ะ)

      การที่เราตระหนักถึงความสำคัญของสรรพสิ่งที่เอื้อต่อชีวิตเรานั้น การแสดงความขอบคุณดวงจันทร์ ความเคารพนบนอบขอบคุณต่อธรรมชาติรอบตัวเรานี้ (Reverence) เป็นจุดมุ่งหมายหนึ่งที่สำคัญของการศึกษา การที่เด็กจะสำนึกรู้คุณต่อสิ่งใดได้นั้น เขาต้องมีความรักในสิ่งนั้นเสียก่อน และนั่นก็จะทำให้เขาอยากจะดูแลสิ่งเหล่านั้นด้วยหัวใจที่แท้จริง

      หากเราเข้าใจในแก่นของเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้ว เราก็จะสามารถนำทางลูกๆได้อย่างถูกทาง เช่น การแสดงความขอบคุณต่อดวงจันทร์ในวันนั้น ถ้าเราไม่มีชุดจีน หรือ เสื้อThemeใดๆแล้ว (และหากเราจะต้องดิ้นรนเสียทรัพย์สินจนเกินความจำเป็นของเราจนเกิดความทุกข์แล้ว) เราก็สามารถหาชุดที่เหมาะสมอื่นๆใส่แทนได้ (อนึ่ง หากเราสร้างวัฒนธรรมการส่งมอบเสื้อผ้าพี่โตให้น้องเล็กๆ พี่โตที่มีชุดจีนได้เก็บรักษาชุดอย่างดี และส่งต่อมายังน้องเล็กๆหรือเพื่อนๆคนที่ไม่มี ก็จะเป็นวัฒนธรรมที่ดีมาก) เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายนั้นเป็นส่วนประกอบหนึ่งของเทศกาลก็จริง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ควรจะเหลือบ่ากว่าแรงหรือทำให้เกิดความทุกข์จนเกินควร สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่สิ่งที่จะกล่าวต่อไปนี้มากกว่า


เด็กๆนั้นจะได้เรียนรู้ว่า โลกนี้ดี โลกนี้งาม โลกนี้จริง ตามช่วงวัยที่ต่างกัน ความเอื้ออาทร คุณงามความดีของมนุษย์ที่มีต่อกันและกัน ช่วยหล่อหลอมให้เด็กๆมีทัศนะต่อการมองโลกและชีวิตที่งดงาม(ความงดงามที่ไม่ได้หมายความว่า “สวย” หากแต่เป็นสัจจะของชีวิตทั้งมวล)

     เมื่อเด็กๆได้มีโอกาสได้เห็นคุณพ่อคุณแม่ร่วมมือร่วมใจกันจัดโต๊ะไหว้พระจันทร์​ ช่วยกันเตรียมสถานที่ ตัดหญ้าในสนามเพื่อความสวยงามตอนเด็กๆเดินโคม ช่วยกันถมถนนหากเส้นทางเดินโคมของเด็กๆเป็นหลุมเป็นบ่อ เห็นคุณแม่ทำอาหาร potluck มาแบ่งกันกินในตอนเย็นวันเทศกาล ช่วยกันทำงาน ยกน้ำ ล้างจานชาม ยกโต๊ะ ยกเก้าอี้ สละเวลามาประชุมหรือไต่ถามความคืบหน้า หรือกระทั่งคุณพ่อคุณแม่ที่อาสาดูแลลูกๆให้พ่อแม่ที่เตรียมงาน ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นการให้การศึกษาที่ยิ่งใหญ่ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะงานเล็กหรือใหญ่ก็มีคุณค่าทั้งสิ้น คุณพ่อคุณแม่พี่ป้าน้าอาทั้งหลาย คือ ผู้ที่กำลังสอนให้เด็กๆรู้จักช่วยเหลือเกื้อกูล เสียสละ ไม่ดูดาย หรือบางคนทำงานที่ตนไม่ถนัดแต่ก็มีความเพียรที่จะทำ สิ่งเหล่านี้งดงามและยิ่งใหญ่กว่าหนังสือปรัชญาใดๆที่เราหมายจะให้ลูกๆอ่านเสียอีก 

Share:

บทความอื่น

ติดต่อเรา

dulyapat.org

เกี่ยวกับเรา

ร่วมสนับสนุนดุลยพัฒน์

Copyright © 2024 dulyapat.org All Rights Reserved.
Dulyapat is a Waldorf school in Thailand, officially recognized by the European Waldorf World List.
Scroll to Top