วิธีการรับเข้า

อายุในการรับสมัครเด็ก
เด็กเนิสเซอรี่
จากประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้และทำงานมา  เราพบว่าเด็กที่มาหาเรา มาอยู่ที่บ้านดุลยพัฒน์ควรมีอายุประมาณ 2 ขวบต้นๆ หรือไม่ควรเกินอายุ 2.6 ปี  
อย่างไรก็ตามเราก็สนับสนุนให้พ่อแม่และครอบครัวเรียนรู้ความสัมพันธ์กับเด็ก มากกว่าที่จะแยกเด็กออกมาสู่บ้านหลังใหญ่  แต่เมื่อผู้ปกครองเห็นว่าจำเป็น
และสิ่งแวดล้อมที่บ้านดุลยพัฒน์สามารถเกื้อกูลและสนับสนุนพัฒนาการในขั้นต่อไปของเด็กได้  เรายินดีที่จะช่วยดูแลเด็กให้ด้วยหัวใจและความปรารถนาดี
อนึ่งเหตุผลที่รับเด็กอายุน้อยกว่าสองขวบครึ่ง เพราะสองขวบครึ่งบางคนอาจจะเข้าสู่วัยต่อต้าน(ซึ่งบางคนอาจจะเกิดเมื่อสามขวบ)  เด็กต้องการคนที่เขาไว้ใจอยู่เคียงข้าง เข้าใจเขามากกว่าเป็นคนแปลกหน้า  ดังนั้นเด็กเล็กต้องการเวลาที่สร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้ดูแลในเนิสเซอรี่ และเมื่อถึงวัยที่เขาต่อต้าน อาการก็จะไม่รุนแรงและผ่านพ้นไปอย่างราบรื่น
เด็กอนุบาล
เรารับที่อายุ 3.6 ขวบ  หรืออายุมากกว่านั้น
การมาสมัครที่ดุลยพัฒน์ไม่ได้จำกัดเวลาหรือเทอม  ถ้าเด็กอายุถึงเกณฑ์ดังที่กล่าวไว้ก็สามารถติดต่อธุรการ แล้วค่อยนัดคุยกับครูค่ะ
เด็กประถมและมัธยม
เราจะรับเด็กที่อายุถึงเกณฑ์ ไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ คือเด็กจะต้องอายุครบเจ็ดขวบภายในปีการศึกษาของประถมหนึ่ง  และครบแปดขวบในปีการศึกษาของประถมสองและครบเก้าขวบภายในปีการศึกษานั้นของประถมสามสิ่งที่เราขอความร่วมมือจากผู้ปกครองเป็นอย่างมาก คือ
พยายามงดสื่อทีวี สมาร์ทโฟน ไอแพด  การอ่านนิทานหรือหนังสือเกินกว่าวัยของเด็กเด็กไม่ต้องนำเอานมกล่อง นมหวาน ขนมหวาน หรือพกเงินติดตัวมาดุลยพัฒน์พยายามพาเด็กไปในสถานที่มีธรรมชาติ มากกว่าห้างสรรพสินค้าหรือซุปเปอร์สโตร์ขอให้เด็กได้มีเวลาพักผ่อนนอนหลับที่ยาวนานเพียงพอ ประมาณสิบชั่วโมง  โดยเฉพาะเด็กเล็กควรหลับไม่เกินสองทุ่มครึ่งเพราะการมาบ้านดุลยพัฒน์นั้น เด็กเล็กต้องใช้พลังเยอะมาก  ดังนั้นการนอนหลับเพียงพอทำให้เด็กพร้อมที่จะเผชิญสิ่งใหม่และเรียนรู้ได้ดีกว่า มีพลังในการจดจ่อมากกว่า เล่นได้ดีกว่าจะทำให้เจริญอาหารด้วยค่ะเข้าประชุมผู้ปกครอง เทอมละครั้งเป็นอย่างน้อย และหาโอกาสเข้าร่วมเวิร์คชอปจากทางศูนย์การเรียนหรือกิจกรรมต่าง ๆ ของกลุ่มผู้ปกครองและพูดคุยกับครูผู้ดูแลหลักเมื่อมีปัญหาใด ๆ ได้โดยตรง
เมื่อสนใจอยากสมัครเรียนต้องทำอย่างไร?
ศูนย์การเรียนดุลยพัฒน์ ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อนรับเด็กนักเรียนและผู้ปกครองที่สนใจในศูนย์การเรียน แต่เนื่องจากเรามีรูปแบบการจัดการศึกษาที่แตกต่างจากการจัดการศึกษาของโรงเรียนทั่วไป จึงมีขั้นตอนการรับเข้าที่หลายขั้นตอน โดยมีรายละเอียด ดังนี้


ขั้นตอนการติดต่อขอเยี่ยมชมและสมัครเข้าเรียน


1.ผู้ปกครองศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางการศึกษาแบบวอล์ดอร์ฟ
เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะการศึกษาแนววอล์ดอร์ฟ แตกต่างจากการจัดศึกษาในโรงเรียนทั่วไป นอกจากนั้น ยังต้องอาศัยความมีส่วนร่วมจากผู้ปกครองและครอบครัวค่อนข้างมาก จึงแนะนำให้ผู้ปกครองที่สนใจศึกษาแนวคิด รูปแบบการศึกษา ผ่านเว็บไซต์หรือ Facebook ของศูนย์การเรียน  ตลอดจนลองหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การศึกษาในแนววอลดอร์ฟ  รวมไปถึง ลองศึกษาเส้นทางการเดินทางไปศูนย์การเรียนไว้ล่วงหน้า


2.ลงทะเบียนเยี่ยมชม
          ทางศูนย์การเรียนมีนโยบายต้องนัดล่วงหน้าเท่านั้นจึงจะสามารถเข้าไปเยี่ยมชมศูนย์การเรียนได้ (โดยปกติจะเยี่ยมชมได้ ในทุกวันศุกร์ เวลา 15.00-16.00 น.) หากสนใจที่อยากจะเข้าเยี่ยมชมหรือพาบุตรหลานเข้าเรียน สามารถติดต่อลงทะเบียนเยี่ยมชมได้ที่ แบบฟอร์มลงทะเบียนเยี่ยมชม ได้รับข้อมูลแล้วจะมีครูหรือผู้ปกครองอาสาติดต่อกลับทางโทรศัพท์เพื่อยืนยันวันเวลาเข้าเยี่ยมชมศูนย์การเรียน


3.เยี่ยมชมศูนย์การเรียน
เมื่อถึงวันที่นัดหมาย จะมีการนำเยี่ยมชมและแนะนำศูนย์การเรียนเบื้องต้นโดยธุรการหรือผู้ปกครองอาสา โดยในทุกครั้งที่เข้าเยี่ยมชม ขอความกรุณางดใช้สมาร์ทโฟนหรือกล้องถ่ายรูปถ่ายภาพเด็ก ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ๆ ในศูนย์การเรียนหรือบุตรหลานของท่านเอง


4.พบครูและประเมินเด็ก
หลังจากการเยี่ยมชมแล้ว หากผู้ปกครองยังคงสนใจและตัดสินใจส่งบุตรหลานเข้าเรียน สามารถติดต่อกลับมาที่ธุรการ เพื่อขอนัดพบและพูดคุยกับคุณครู เมื่อได้รับการนัดหมาย ให้ผู้ปกครองมาตามนัด โดยหากพาเด็กมา ต้องมีผู้ดูแลมาด้วย เพื่อดูแลเด็กอยู่ด้านนอกในขณะที่ครูคุยรายละเอียดกับผู้ปกครอง หากไม่ได้พาเด็กมา จะมีการนัดอีกครั้งเพื่อให้ครูได้พบเด็กและประเมินเด็ก


5.ส่งใบสมัคร
          เมื่อได้พบปะพูดคุยกับครูแล้ว หากตัดสินใจส่งลูกเข้าเรียนและคณะครูได้ตัดสินใจรับนักเรียน สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดค่าใช้จ่ายในการสมัคร ขอรับเลขประจำตัวนักเรียน (ID) และรับใบสมัครที่ห้องธุรการ หรือ กรอกสมัครออนไลน์ (หลังเสร็จกระบวนการเยี่ยมชม พูดคุยกับครู และครูได้ประเมินเด็กแล้วเท่านั้น) กรอกข้อมูลและนำส่งที่ห้องธุรการพร้อมแนบหลักฐานการสมัครให้ครบถ้วน
*ผปค ต้องจดจำเลขประจำตัวนักเรียน เพื่อใช้ในการดำเนินการต่าง ๆ การชำระค่าใบสมัคร และค่าสนับสนุนการศึกษา (รายละเอียดสามารถสอบถามได้ที่ ธุรการ)


6.การเข้าเรียน
เมื่อได้หลักฐานต่าง ๆ ครบเรียบร้อย และมีรายชื่อนักเรียนในทะเบียนนักเรียน จะได้รับอีเมลแนะนำสำหรับผู้ปกครองใหม่เป็นการยืนยัน (ผปค ควรมีอีเมล์ที่ใช้งานได้จริงเพื่อรับข้อมูลสำคัญจากศูนย์การเรียน แต่หากไม่สามารถใช้งานอีเมลได้จริง ๆ สามารถโทรสอบถามได้ค่ะ)
หลังจากนั้น ให้รอโทรศัพท์จากทางคุณครู เพื่อติดต่อขอนัดเยี่ยมบ้าน ส่วนวันเวลาในการเริ่มเข้าเรียนนั้น ในชั้นเนิสเซอรี่และอนุบาล จะไม่เหมือนการเปิดเทอมของโรงเรียนอื่น ๆ ที่สามารถเข้าเรียนตามวันที่กำหนดเปิดเทอมทุกคน เราจะดูช่วงอายุ ความพร้อมของเด็กและครอบครัว(โดยเฉพาะการดูแลเรื่องสื่อ)เป็นหลัก  ซึ่งทางครูจะแจ้งรายละเอียดวันเวลาเข้าเรียนเป็นรายบุคคลต่อไป

Scroll to Top