ฤดูฝน ฤดูกาลแห่งความชุ่มฉ่ำที่หอบเอาน้ำมาหลั่งรดให้กอไผ่ต้นใหญ่ได้แตกหน่ออ่อน โผล่พ้นผืนดินมาอวดโฉมมากมายในดุลยพัฒน์ และสายฝนนี้ไม่เพียงช่วยให้พืชพันธุ์ หรือแม้กระทั่งเจ้าหน่อไม้ได้เติบโต แต่ยังช่วยทำให้ความมั่นใจในคุณค่าของตัวเองได้งอกงามขึ้นภายในตัวของเด็ก ๆ ผ่าน “ต้มจืดหน่อไม้ในฤดูฝน” อีกด้วย
เด็กๆในชั้นอนุบาลของดุลยพัฒน์ได้มีโอกาสกินต้มจืดหน่อไม้เป็นอาหารพิเศษประจำฤดูกาล ซึ่งเด็กๆตื่นเต้นกันมาก โดยเฉพาะบางคนที่ไม่เคยได้ลิ้มรสลิ้มลองมาก่อน ในทุกๆวัน เด็กๆ ได้เดินผ่านกอไผ่ พวกเราชี้ชวนกันดูหน่อไม้ ที่บางต้นสูงชะลูดเผลอแป้บเดียวสูงกว่าเด็กๆแล้ว และเด็กๆก็ได้ช่วยครูขุดหน่อไม้มาทำต้มจืดกินในวันทำซุป ซึ่งปกติเราจะทำซุปผัก ใส่ตำลึงบ้าง ผักไชยาบ้าง วอเตอร์เคสบ้าง ตามที่เราหาเก็บได้ในโรงเรียน และเด็กโตได้มีโอกาสช่วยครูหั่นผัก
เด็กที่โตแล้วสมควรที่จะเรียนรู้วิธีการใช้มีดที่คมจริงๆ หั่นผักทำอาหารที่เรากินได้จริงๆ เพื่อฝึกทักษะ ชีวิตที่มีความหมาย และพวกเขาก็สามารถทำได้ด้วยการดูแลอย่างใกล้ชิดของผู้ใหญ่ เมื่อเด็กสามารถทำสิ่งที่มีความหมายอย่างเช่น การทำอาหารให้คนอื่นๆได้กินจริงๆ เป็นการเพิ่มความมั่นอกมั่นใจในตนเอง รู้ว่าเราพึ่งพาตนเองได้ เพิ่มการมองเห็นคุณค่าในตนเอง ซึ่งจะเป็นเกราะให้แก่เด็กๆได้ดีในการใช้ชีวิตในอนาคต
นอกจากนี้เด็กๆได้เห็นการจุดไฟใช้เตาถ่านแทนการใช้เตาไฟฟ้า การได้เห็นคุณภาพของไฟโดยใช้ฟืนกิ่งไม้ที่หล่นอยู่มากมายภายในโรงเรียนมาใช้หุงหาอาหาร ความธรรมดาสามัญในการมีชีวิตอยู่เป็นสิ่งไม่ยุ่งยากเลย เพียงแค่เรามีไฟ มีผัก เราก็สามารถประกอบอาหารเลี้ยงชีวิตได้
สิ่งสำคัญในการบ่มเพาะเด็กปฐมวัยคือ ความเรียบง่าย เรื่องราวที่สามารถมองเห็นและทำความเข้าใจได้จะช่วยให้เขาเชื่อมั่นในการมีชีวิตอยู่ มีความมั่นคงทางใจและมีความสุข ความสุขที่เกิดจากความเข้าใจในสารัตถะแห่งชีวิต
ทุกวันนี้ในโลกที่เต็มไปด้วยวัตถุ การมุ่งแสวงหาวัตถุมาปรนเปรอบางครั้งก็ไม่ได้ทำให้เรามีความสุขมากขึ้น สิ่งที่การศึกษาที่ดุลยพัฒน์พยายามจะทำคือบ่มเพาะให้เด็กๆได้มีโอกาสเชื่อมโยงตนเองกับธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ด้วยความเข้าใจถึงที่มาที่ไปเพื่อช่วยให้พวกเขาได้ใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาวะที่ดีในอนาคต